ในบรรดาเครื่องรางของขลังสายเฮี้ยน สายแรง เห็นทีจะหนีไม่พ้นการเลี้ยงกุมารทองเป็นส่วนใหญ่ และมีน้อยคนนักที่จะจำแนกออกได้ว่ากุมารที่ตนเองเลี้ยงเป็นกุมารประเภทใดครับ บทความนี้จะพาทุกคนมา “ทำความรู้จักกับกุมารทองแต่ละประเภทที่ทุกคนควรรู้จัก”
ความเชื่อเรื่องการบูชากุมารทอง
แต่เดิมมีความเชื่อต่อกันมาว่ากุมารทองนั้นเป็นวิญญาณเด็กที่ตายในท้องของมารดา หรือตายทั้งกลม ซึ่งผู้แก่กล้าในไสยวิชชาจะไปนำเด็กคนนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก ซึ่งในอดีตพิธีกรรมการทำกุมารทองสามารถทำได้โดยการนำศพที่ตายทั้งกลมมาผ่าท้อง และนำเด็กไปย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งสาง แล้วจึงลงรักปิดทองครับ นางอัปสรา เรื่องราวของตำนาน หญิงต้องห้าม!!
แต่ทว่าในสมัยปัจจุบันพิธีกรรมในการทำกุมารทองได้เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงต้องดัดแปลงสร้างกุมารทองขึ้นจากดินเจ็ดป่าช้า หรือใช้ไม้มะยม ไม้รักซ้อน หรือแม้กระทั่งการใช้โลหะมาสร้างเป็นกุมารทอง จากนั้นนำไปผ่านพิธีการปลุกเสก แล้วจึงตั้งจิต ตั้งธาตุทั้ง 4 รวมไปถึงพิธีกรรมเรียกอาการสามสิบสองจึงจะทำให้เกิดเป็นจิตวิญญาณของกุมารทองนั่นเองครับ
ในการบูชากุมารทองมีความเชื่อต่อกันมาว่า “กุมารทอง รวมไปถึงกุมารี จะให้โชคลาภ ทำมาค้าขายคล่อง ปากเป็นทรัพย์ และยังโดดเด่นด้านการคุ้มภัย ปกป้องภยันตราย และคุณไสยมนต์ดำแก่ผู้เลี้ยงดูได้อีกด้วย” ความรู้เรื่องโลกจะแตกจริงไหมเรามีคำตอบ
ความหมายของคำว่า กุมารเทพ
กุมารเทพ หมายความถึง “ดวงจิตที่อยู่ในภพภูมิเทวดาแล้วมีบุญสัมพันธ์ หรือกรรมสัมพันธ์ต้องลงมาสร้างบุญบารมีร่วมกันกับเจ้าของกุมารทอง หรือผู้เลี้ยงกุมารทอง” ซึ่งกุมารเทพจะสามารถเป็นเพศชาย หรือเพศหญิงก็ได้ทั้งนั้น โดยผู้ชายจะมีลักษณะเป็นเด็กผู้ชาย ไว้ผมทรงจุก หรือมัดหัวจุกคาดด้วยเครื่องประดับรัดเกล้าสีเงินสีทอง นุ่งโจงกระเบนได้ทุกสี ส่วนใหญ่จะเห็นกันเป็นสีแดง กุมารทองยังเป็นเด็กมีสร้อยสังวาลย์คาด และไม่สวมเสื้ออีกด้วยครับ ส่วนถ้าเป็นเพศหญิงมักเรียกกันว่า กุมารรี มีลักษณะเหมือนกันกับกุมารทอง แตกต่างกันที่กุมารีนั้นด้านบนสวมเสื้อทับ
วิธีการบูชา
- ขั้นตอนแรกให้เตรียมบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้าน เจ้าที่เจ้าทาง โดยการจุดธูป 5 ดอกที่หน้าหิ้งพระ แล้วจึงอธิษฐานบอกกล่าวขอนำกุมารทองชื่ออะไร เข้ามาบูชาที่บ้านนี้เพื่อช่วยในเรื่องของการเงิน การงาน โชคลาภ ค้าขาย ปกปักรักษา ปกป้องคุ้มภัยอีกด้วยครับ
- กุมารเทพจะบูชาด้วยขนมหวาน ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน รวมไปถึงขนมเวเฟอร์ โอริโอ้ก็ถวายได้เช่นกัน ที่สำคัญไม่ควรขาด น้ำแดง น้ำเขียว น้ำส้ม และยาคูลท์ และ “น้ำเปล่าควรเปลี่ยนทุกวัน”
ความหมายของคำว่า กุมารพราย
สำหรับกุมารพรายนั้นเป็น”ดวงจิตของวิญญาณเด็กที่เสียชีวิตแล้วในครรภ์มารดา ซึ่งกุมารพรายจะเสียชีวิตแบบตายทั้งกลมไม่ใช่ดวงจิตที่มีภพภูมิสัมพันธ์กันกับภพเทพแต่อย่างใดครับ” โดยกุมารพรายจะถูกหมอไสย หมอผี หรือผู้แก่กล้าทางวิทยาอาคมนำมาเลี้ยงผ่านการลงคาถาอาคมกำกับอีกด้วยครับ ดังนั้นการเลี้ยงกุมารพรายจึงถือว่าเป็นการเลี้ยงผีชนิดหนึ่งครับ
กุมารพรายจะมีลักษณะทุกประการเหมือนกุมารเทพ ได้แก่ ไว้ผมจุก นุ่งโจงกระเบน (ได้ทุกสี) สวมใส่สังวาล หรือเครื่องประดับชนิดอื่น ๆ ด้วยตามแต่กำลังบุญของดวงจิตนั้นอย่างเช่น รัดเกล้าเหล่านี้เป็นต้น หากเป็นกุมารีก็จะมีลักษณะเป็นเด็กผู้หญิง ใส่เสื้อท่อนบน ท่อนล่างนุ่งโจงกระเบนเหมือนกันครับ
วิธีการบูชา
- ในส่วนของการบูชากุมารพรายจะถวายขนมหวาน เช่นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมไทย น้ำแดง ยาคูลท์ได้เหมือนกันกับกุมารเทพ แต่งดให้ทานอาหารดิบ เช่น ปลาดิบ กุ้งดอง ปลาแซลมอนดอง แหนมเหล่านี้จะทำให้กุมารพรายแปลงสภาพเป็นดวงจิตวิญญาณร้ายได้ครับ
- ในการเลี้ยงกุมารพรายต้องเรียกกินข้าวทุกครั้งที่ตั้งโต๊ะอาหาร รวมไปถึงหมั่นเปลี่ยนน้ำเปล่าไม่ให้ขาดด้วย ห้ามปล่อยปละละเลยเด็ดขาดครับ
บทสรุป ความแตกต่าง กุมารเทพ และ กุมารพราย
ข้อแตกต่างระหว่างการเลี้ยงกุมารเทพ และกุมารพรายจะเห็นได้ชัดจากการขอพร โดยกุมารพรายจะให้ผลได้รวดเร็วกว่ากุมารเทพ เพราะมีจิตที่กล้าแกร่งกว่ามาก “ดังนั้นการเลี้ยงกุมาร ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องมีศีลธรรม และคุณธรรมอย่างมาก นั่นก็เพราะทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้จริง ควรคำนึงถึงแต่สิ่งดี ๆ คิดดี ทำดี พูดดี แม้ว่าจะเป็นคนเล่นคุณเล่นของ แต่หากสามารถควบคุมความคิดตนเองได้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างแน่นอนครับ”