กลายเป็นกระแสที่ยังแรงไม่ตกเลยทีเดียว กับเรื่องราวของนางห้าม หรือที่ใครหลายคนเรียกว่านางอัปสรา ที่ยามนี้มีแชร์ลงในโซเซียลมีเดียวอย่างติ๊กตอก และอีกหลายสื่อ ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้จักกับนางห้าม บทความนี้จะ “ชวนทุกคนมาทำความรู้จักเรื่องราวของนางห้าม นางอัปสรา นางอัปสร และ วิธีการแก้ไขหากเป็นนางห้ามครับ” มาดูกันเลย
ความเชื่อเรื่องของการเป็นหญิงต้องห้ามคืออะไร
ในอดีตความเป็นหญิงต้องห้ามนั้นหมายถึงสตรีที่เคยเป็นพระสนมเอก หรือพระสนมของกษัตริย์ ซี่งนางสนม หรือพระสนมนั้นจะมีหน้าที่คอยปรนนิบัติกษัตริย์ในยามบรรทม และคอยรับใช้ใกล้ชิดพระองค์ยามเมื่อองค์กษัตริย์ตื่นบรรรทมอีกด้วยครับ ซึ่ง “ในอดีตสมัยก่อน ห้ามชายใดแตะต้อง หรือแม้กระทั่งเห็นพระพักตร์ของนางสนม หากชายใดทำผิดต่อกฎระเบียบราชประเพณีจะต้องถูกประหาร ด้วยเหตุนี้เองจึงเปรียบได้ว่าสตรีนั้นเป็นนางห้าม หรือสตรีต้องห้าม ห้ามรัก ห้ามเสพสังวาส รวมไปถึงห้ามมองอีกด้วยครับ”
เรื่องราวของนางอัปสร ตำนานของหญิงต้องห้าม
ในตำนานกล่าวว่า นางอัปสร เกิดมาจากการกวนเกษียรสมุทรที่เขาพระสุเมรุ ซึ่งคำว่าอัป แปลว่าน้ำ ส่วนคำว่าสร แปลว่าการเคลื่อนไหวนั่นเองครับ ลักษณะของนางอัปสร หรือนางอัปสรานั้นเป็นสตรีผู้มีความงดงาม และความสามารถในการร่ายรำทำเพลงอีกด้วยครับ เหตุการณ์พุทธทำนายโลกแตกมีจริงไหมคือสิ่งที่น่ารู้
และ เมื่อนางอัปสรถือกำเนิดขึ้นมาในระหว่างการแย่งชิงน้ำอมฤตเหล่านั้น ทำให้ไม่มีใครรับนางอัปสร ด้วยเหตุนี้เอง”นางอัปสรจึงกลายเป็นของกลางที่ต้องบำเรอเหล่าเทพเทวา เปรียบเสมือนกับโสเภณีบนสรวงสรรค์ แต่สุดท้ายองค์อินทร์ ผู้เป็นใหญ่ในชั้นตาวะติงสาก็ได้รับนางอัปสราเอาไว้นั่นเองครับ หลายตำราระบุว่า นางอัปสรเป็นเครื่องมือชั้นดีในการทำลายตบะของฤษีชีไพรอย่างมากเลยทีเดียวครับ”
ลักษณะของหญิงต้องห้ามตามตำนาน
ตามความเชื่อของคนโบราณ ในอดีตกาลนั้นการเป็นหญิงต้องห้าม หรือนางสนนมนั้นจะมีความสวยงามมาก แต่หากนางสนมนางใดได้สิ้นไป จะต้องมีการทำพิธี และแต้มจุดตำหนิเอาไว้ให้ระลึกได้ว่าตนเองเป็นนางห้ามครับ
ตำหนิ เเละจุดเด่นของคนที่เป็นหญิงต้องห้าม
“สำหรับตำหนิ และจุดเด่นจะมีดังต่อไปนี้
- หญิงต้องห้ามจะมีไฝที่ของลับ อวัยวะเพศ
- นางห้ามจะมีไฝที่หน้าอก และแผ่นหลัง
- นางต้องห้ามจะมีแผลที่ข้อเท้า หรือไฝที่ข้อเท้า”
วิธีแก้ชะตากรรมของหญิงต้องห้าม
“สำหรับวิธีการแก้ไขชะตากรรมของการเป็นหญิงต้องห้าม จะสามารถแก้ไขได้โดยการไปไหว้เจ้าแม่จามเทวี เชื่อกันว่าเป็นการขอพรเปิดทางให้มีความรัก และคู่ครองได้ในชาตินี้” โดยการนำถวายของไหว้ และพานบายศรี 1 คู่ จากนั้นให้จุดธูปไหว้ สวดบทของเจ้าเม่จามเทวี ตามนี้ ยา เทวี จะมะเทวีนามิกา อะภิรูปา อะโหสิ ทัสสะนียา ปาสาทิกา พุทธสาสะเน จะ อะภิปะสันนา สา อตีเต เมตตายะ เจวะ ธัมเมนะ จะ หะริภุญชะยะธานิยา รัชชัง กาเรสิ, อะหัง หะริภุญชะยานะคะระ วาสีนังปิ มะหันตัง หิตะ สุขัง อุปาเทสิ, อะหัง ปะสันเนนะ เจตะสา ตัง วันทามิ สิระสา สัพพะทาฯ จากนั้นให้ขอพรท่าน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
บทสรุป
แม้ว่าการเป็นนางห้ามจะแปลว่าเป็นสตรีนั้นเคยเป็นพระสนมมาแต่อดีตกาล หากการเป็นนางสนมใช่ว่าจะไม่สมหวังในรักเสมอไป แต่หากในชาตินี้ประสงค์มีคู่ครอง ผู้เขียนแนะนำว่าให้ไหว้พระแม่จามเทวี หรือรัชกาลที่ 5 เพื่อเปิดทางขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มีคู่ครอง “แต่สิ่งหนึ่งที่ให้จำไว้เสมอว่า ทุกอย่างมีเหตุ และปัจจัยเสมอจึงก่อกำเนิดผลลัพธ์ที่เป็นอยู่เช่นทุกวันนี้ตามมานั่นเองครับ”