คงจะปฏิเสธได้ยากว่าคริสต์มาสต์เป็นเทศกาลหนึ่งที่มอบความสุขให้กับใครหลายคนครับ ไม่ว่าจะเป็นการมอบของขวัญให้กัน การร้องเพลงประสานเสียง รวมถึงการแต่งตัวเป็นซานต้าครอสล้วนแล้ว แต่เป็นกิจกรรมวัยเด็กที่หลายคนชื่นชอบ “แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักที่มาที่ไปของวันคริสต์มาสต์ และคริสต์มาสต์เทศกาลสีเขียวแดงเกี่ยวข้องอย่างไรกับพระเยซู บทความนี้จะชวนทุกคนมาทำความรู้จักวันคริสต์มาสต์กันครับ”
ความหมายอันสำคัญของวันคริสต์มาสต์
ในวันคริสต์มาสต์นี้เป็นวันที่พระเยซู บุตรองค์เดียวแห่งพระยะโฮวาห์ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้นมา โดยในการกำเนิดขึ้นของพระเยซูเกิดในวันคริสต์มาสต์อีกด้วยครับ ซึ่งต่อมาพระเยซูได้ไถ่บาปให้มวลหมู่มนุษย์ทั้งหลายนั่นเองครับ
แน่นอนว่าทุกอย่างบนโลกนี้ไม่เคยเกิดความบังเอิญทั้งนั้น “ด้วยเหตุนี้ความหมายที่สลักสำคัญในวันคริสต์มาสต์จึงเป็นการเฉลิมฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ชาติ หรือโลกมนุษย์นั่นเองครับ”
แล้วพระเยซู คือใครกันนะ
“พระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าที่ได้ลงมาไถ่บาปให้กับมนุษยชาติ พระองค์ทรงเป็นบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพ อันได้แก่ พระบิดา พระบุตร และพระจิต” ต่อมาพระเยซูถูกทรมาน ทั้งยังถูกตรึงบนไม้กางเขนจนสิ้นชีวิต นั่นนับเป็นการพลีชีพเพื่อไถ่บาปให้กับมนุษย์ทั้งปวง งานปีใหม่พร้อมกับความเชื่อด้วยเหตุนี้เองทำให้พระเยซูกลายมาเป็นพระเจ้าของคริสต์ศาสนาอีกด้วยครับ
วันคริสต์มาสต์มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับพระเยซู
ย้อนกลับไปในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี อันเป็นวันถือกำเนิดของพระเยซู ทว่าในปี ค.ศ. 274 จักรพรรดิเอาเรเลียนนั้นได้กำหนดวันเกิดของสุริยเทพทำให้ชาวโรมันจัดงานเฉลิมฉลองอย่างใหญ่โต “แต่ทว่ามีชาวคริสต์บางคนที่ไม่ต้องการเฉลิมฉลอง สุริยเทพ ด้วยเหตุนี้เองทำให้คริสต์ชนหันมาเฉลิมฉลองให้คริสต์มาสต์ให้กับพระเยซูแทนนั่นเองครับ”
ธรรมเนียมการปฏิบัติตนในวันคริสต์มาสต์
สำหรับในวันคริสต์มาสต์ ชาวยุโรปทั่วโลกจะมีการปฏิบัติตนตามธรรมเนียมวันคริสต์มาสต์ ดังต่อไปนี้
- การแขวนถุงเท้า
ในช่วงวันคริสต์มาสต์อีฟ คริสต์ชนจะนิยมนำถุงเท้ายาวไปห้อยไว้บริเวณหน้าเตาผิง หรือบริเวณต้นคริสต์มาสต์ เพราะพวกเขาเหล่านั้นเชื่อกันว่าจะมีซานตาครอสจะนำของขวัญที่พวกเขานั้นอยากได้มาใส่ไว้ในถุงเท้า “ทว่าบางตำนานกลับกล่าวไว้ว่า หากเมื่อใดที่นักบุญนิโคลัสอันเป็นซานต้าคลอสคนแรกเดินทางผ่านมา ท่านจะทิ้งเหรียญเงินไว้ในรองเท้าเพื่อเป็นการตอบแทนหญ้าแห้งที่นำมาเป็นอาหารให้กับลาของเขา”
- เคาะประตูร้องเพลงเฉลิมฉลอง
อีกหนึ่งธรรมเนียมที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นวันที่คริสต์ชนต้องไปเยี่ยมเพื่อนบ้าน ญาติ หรือคนรู้จักในวันคริสต์มาสต์ “พวกเขาจะอวยพรเพื่อนบ้านเหล่านั้นด้วยการร้องเพลง ได้แก่ เพลง Santa Claus Is Coming to Town เพลง Rudolph the Red-nosed Reindeer หรือแม้กระทั่งเพลง Holy Night เลยทีเดียวครับ” ทั้งนี้เป็นพวกเขาจะได้รับการตอบแทนเป็นขนมหวาน อาหาร และเครื่องดื่มจากมิตรไมตรีการอวยพรของพวกเขาอีกด้วย
- เตรียมขนมและนมให้กับซานต้า
และความเชื่อสุดท้ายที่ผู้เขียนได้นำมาฝากกันนั้น คริสต์ชนเชื่อต่อกันว่ามา ซานต้าต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรีบส่งของขวัญให้เด็ก ๆ ก่อนเวลารุ่งเช้า “และเพื่อเป็นการขอบคุณซานต้า เด็กผู้เป็นคริสต์ชนทั้งหลายจึงวางคุกกี้พร้อมนมสดไว้ให้ซานต้าข้างๆ เตาผิงไฟ เพื่อเป็นการขอบคุณซานต้าที่ทำงานเพื่อเด็กๆเหล่านี้นั่นเองครับ”
ทำไมต้องใช้ต้นสน ต้นฮอลลี เป็นต้นไม้ในวันคริสต์มาสต์
นอกจากนี้ต้นไม้ที่นำมาใช้ในวันคริสต์มาสต์เป็นต้นสน นั่นก็เพราะต้นสนเป็นพรรณไม้หาง่ายในทวีปอเมริกาและยุโรป ส่วนสาเหตุที่ปัจจุบันนิยมใช้ต้นฮอลลี่ด้วยนั้น สืบเนื่องมาจากชาวคริสต์โบราณมีความเชื่อว่าต้นคริสต์มาสต์เป็นต้นไม้ในสวนสวรรค์ที่อดัมและเอวาได้หยิบไปกินนั่นเองครับ
“ต้นฮอลลี่มีลักษณะเป็นต้นไม้ใบสีเขียว มีหนามแหลมคม ทั้งยังมีผลสีแดงสด ชาวคริสต์จึงใช้สื่อความหมายถึง มงกุฎหนามของพระเยซู และหยดโลหิตของพระองค์อีกด้วยครับ”
บทสรุป
จากที่ผู้เขียนกล่าวไปข้างต้นแล้ว สัญลักษณ์ของความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ไม่ได้มีเพียงแค่คำว่าวันคริสต์มาสต์ วันที่ 25 ธันวาคมเพียงอย่างเดียวครับ “ซึ่งหากศึกษาค้นคว้าจนลึกแล้วจะพบว่าที่วันคริสต์มาสต์ใช้สีเขียวแดงนั้นเปรียบได้ดังเช่นโลหิตของพระเยซูที่หยดลงบนไม้กางเขน เมื่อพระบุตรของพระเจ้าลงมาไถ่บาปให้มวลมนุษยชาติ ส่วนสีเขียวนั้นเปรียบได้กับความหวัง และชีวิตที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้งนั่นเองครับ”
