เอาใจสายพญาครุฑกันบ้างครับ ว่ากันว่าองค์พญาครุฑเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาอยู่ภายใต้การปกครองของท้าววิรุฬหกมหาราช ผู้เป็นหัวหน้าทางด้านทิศใต้ “แต่ทว่ามีน้อยคนนักที่จะทราบเรื่องราวของพญาครุฑ ด้วยเหตุนี้เอง บทความนี้จะชวนทุกคนมาทำความรู้จัก องค์พญาครุฑ”ทั้ง 9 กันครับ มาดูกัน
ความเชื่อเรื่องการบูชาพญาครุฑ และวิธีการบูชา
เชื่อกันว่าในการบูชาพญาครุฑ ผู้บูชาองค์เทพครุฑนั้นจะเป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ ยศถาบรรดาศักดิ์ในหน้าที่การงานเพิ่มพูน ทั้งยังเด่นด้านเมตตามหานิยม รวมไปถึงช่วยลบล้างอาถรรพ์ คุณไสย ไสยเวทย์ มนต์ดำอาถรรพ์ได้อีกด้วยครับ และสายมูอีกหนึ่งสายนั่นก็คือกุมารเทพ กุมารพรายที่น่ารู้ “สำหรับวิธีการบูชาพญาครุฑมี ดังต่อไปนี้
- ให้ทำพิธีเชิญพญาครุฑเข้าบ้านก่อนเวลา 12.00 น.
- จุดธูปจำนวน 5 ดอกเป็นการบอกกล่าวเจ้าที่
- ให้ถวายเครื่องบรวงสรวง ได้แก่ ธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ พวงมาลัย 1 พวง ผลไม้ 3 อย่าง ถั่ว 1 ถ้วย และน้ำเปล่า 1 ถ้วย
- กล่าวบทสวดมนต์ “พุทโธอิติสุคะโต นะโมพุทธายะ ข้าพเจ้าขออัญเชิญพญาครุฑ กำลังแผ่นดินจงคุ้มครองข้า (บอกชื่อและนามสกุล) เจริญโชคมั่งมีศรีสุข ลาภผลพูนทวี อยู่เย็นเป็นสุข ขออำนาจพญาครุฑจงล้างอาถรรพณ์ขจัดทุกข์โศก โรคภัยเสนียดอัปมงคลให้หายสิ้นไป ขออำนาจพญาครุฑกำลังแผ่นดิน จงคุ้มครองครอบครัวของข้าพเจ้า ให้เจริญร่ำรวยด้วยอำนาจของ อุกาสะ มะ อะ อุ พุทโธนะโมพุทธายะ เทอญฯ” จำนวน 1 จบ”
พญาครุฑเป็นใคร
ในตำนานกล่าวว่า “พญาครุฑเป็นโอรสของพระนางวินตากับพระกัศยปเทพบิดร ซึ่งนางวินตาเป็นธิดาของพระทักษะประชาบดีที่ถูกยกให้มาพร้อมกันกับนางกัทรุ มารดาแห่งพญานาคทั้งปวง ว่ากันว่าพระนางทั้งสองได้ขอพรให้กำเนิดกับพระกัศยปะบิดรอีกด้วย”
นางกัทรุขอให้มีบุตรจำนวนมาก ต่อมาพระนางกัทรุได้ให้กำเนิดนาคพันตัว ส่วนพระนางวินตาขอให้ตนมีลูก 2 องค์ และขอให้ลูกของนางมีวาสนาบารมีรวมไปถึงอำนาจ เมื่อพระนางวินตาคลอดบุตรออกมาเป็นไข่สองฟองนั่นเองครับ โดยหลังจากการเฝ้ารอมา 500 ปี พระนางทนไม่ไหว ด้วยเหตุนี้เองเมื่อพระนางวินตาตัดสินพระทัยทุบไข่ออกมาฟองหนึ่งก็พบว่า ลูกของนางมีเทพบุตรมีกายแค่ครึ่งท่อนบน ชื่อว่าอรุณเทพบุตร
อรุณเทพบุตรได้สาปให้พระนางวินตาได้กลายเป็นทาสพญานาค ซึ่งโอรสองค์ที่สองของพระนางจะช่วยให้พระนางพ้นจากความเป็นทาสของพญานาคเท่านั้น พระนางวินตาจึงไม่กล้าทุบไข่ฟองที่สองอีก
เมื่อครบกำหนด 1000 ปี ไข่ฟองที่สองฟักออกมา พระนางวินตาจึงได้พระโอรสเป็นครุฑ โดยเมื่อกำเนิดออกมานั้น โอรสของพระนางวินตามีลักษณะตัวใหญ่โตจรดฟ้า ดวงตาเมื่อกะพริบจะเหมือนกับฟ้าแล่บ รัศมีรอบกายพวยพุ่งประหนึ่งแสงจากไฟไหม้ทั่วทิศ และเมื่อเวลาขยับปีกไปที่ใด ขุนเขาจะตกใจหนีหายไปพร้อมกับพระพายอีกด้วย เทวดาจึงได้มาร้องขอให้ลดขนาดครุฑตนนั้นลงมา แนะนำความรู้หมอยาหมอไสยแตกต่างกันอย่างไร!!
9 พญาครุฑมหาราช ผู้ทรงฤทธานุภาพมีใครบ้าง
1.พญาสุบรรณ
มาเริ่มกันที่ครุฑองค์แรก มีลักษณะเป็นทองคำทั้งองค์ พญาสุบรรณมีขน 7 สี ท่านมีพระอาคมสูง สามารถเรียกเงิน เรียกทอง รวมไปถึงพระองค์สามารถเรียกสมบัติเข้าบ้านได้เปรียบเสมือนเป็นดั่งท้องพระคลังอีกด้วย
2.พญาครุฑเวชไชยยันต์
ต่อมาเป็นพญาครุฑองค์ที่สอง มีชื่อว่าพญาครุฑเวชไชยยันต์ องค์นี้มีลักษณะเป็นเพชรทั้งองค์ องค์พญาครุทสามารถขับไล่ภูต ผี ปีศาจออกไปได้ ทั้งยังสามารถชุบชีวิตพญานาคได้หลายล้านตัวอีกด้วย “องค์พญาครุฑเวชไชยยันต์นับเป็นพญาครุฑที่มีความกตัญญูต่อบุพการีมากที่สุด” สำหรับผู้ที่อยากบูชาพญาครุฑองค์นี้จะต้องหมั่นทำความดี มีบุญวาสนา และต้องมีศีลธรรมนำใจเป็นหลัก
3.พญาเวนไตย
ถัดไปเป็นพญาเวนไตย องค์ท่านมีกายเป็นสีมรกต พญาเวนไตยมีฤทธิ์เดชมหาศาลสามารถบินไปได้ทั่วเอกภพ ซึ่ง “เป็นองค์พญาครุฑสู้กับพญานาค ทั้งยังคอยสั่งสอนพญานาคให้ดำรงตั้งมั่นศีลธรรม ไม่ทำร้ายมนุษย์ และสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง รวมไปถึงเทพยดาทุกพระองค์ ผู้ถือศีล และผู้บำเพ็ญตบะเดชะบารมี”
4.องค์วายุภัค
พญาครุฑองค์วายุภัคเป็นพญาครุฑที่มีเมตตาจิต พญาครุฑองค์นี้มีบารมีมาก ทั้งยังมีอานุภาพต้านฟ้าทานดินไม่ให้โลกแตกได้ ลักษณะของพญาครุฑวายุภัคมีกายเป็นสีขาวทั้งองค์อีกด้วยครับ
5.องค์พญาครุฑสัจจะมหาราช
องค์พญาครุฑสัจจะมหาราช พญาครุฑองค์นี้มีหน้าที่คุ้มครองโลก โดยการป้องกันไม่ให้อุกาบาตมายังโลกมนุษย์อีกด้วยครับ พระองค์จะบำเพ็ญไปอีก 2,500-5,000 ปี เพื่อไม่ให้น้ำท่วมโลก และแผ่นดินยุบ “หากผู้ใดได้บูชาจะมีบุญวาสนา ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยสมาธิที่ดีมาก”
6.องค์พญาครุฑปรเมศวร
องค์พญาครุฑปรเมศวร หรือ มหาราชเปิดขุมทรัพย์ มีกายเป็นสีไพลิน “ครุฑองค์ปรเมศวรเป็นพญาครุฑที่มีทรัพย์สมบัติมากกว่าเทพทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน” ทั้งพญาครุฑพระองค์มีบริวารเป็นท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เหนือกว่าเทพ 12 จักรราศี นอกจากนี้องค์มหาเทพพระอิศวรยังได้ประกาศให้เป็นเจ้าฟ้าเจ้าอากาศ อีกด้วยครับ
7.พญาทศยันต์มหาราช
พญาครุฑองค์ต่อมามีพระนามว่า พญาทศยันต์มหาราช มีกายเป็นสีฟ้า พระองค์เป็นครุฑผู้ถือศีล และมียันต์ 10 ทิศ “ครุฑาทศยันต์มหาราชมีความเมตตา และเรียกเงินทอง โชคลาภ และสามารถเปิดขุมทรัพย์สมบัติให้กับคนยากจนยากไร้ได้อีกด้วย ทั้งท่านยังสามารถเสริมบารมีให้แก่ผู้บูชา”
8.องค์พญาครุฑวัสสวัสมหาราช
ถัดไปเป็น “พญาครุฑวัสสวัสมหาราช สามารถควบคุมจักรวาลและเอกภพ ทั้งยังเป็นครุฑที่ดูแลสมเด็จพระสมณโคดม และพระอริยเจ้า” คุ้มครองบุคคลที่ทำความดี ผู้กตัญญูต่อบิดามารดา กตัญญูต่อสังคม และแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง พญาครุฑวัสสวัสมหาราชมีกายสีม่วงเจือสีดำ
9.องค์พญาครุฑโทครุฑามหาราช
ปิดท้ายด้วยพญาครุฑครุฑโทครุฑามหาราชเป็นพญาครุฑที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ “พญาครุฑองค์นี้เป็นผู้คอยปราบปรามผู้กระทำความผิด และเทพที่ประพฤติตนผิดไปจากศีลธรรม ความดี”
บทสรุป
ไม่เพียงแต่การบูชาพญาครุฑจะนำอำนาจ วาสนา บารมีมาให้แล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันภัยนตรายจากสัตว์พิษต่าง ๆ ได้อีกด้วย ช่วยให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง และลบล้างอาถรรพ์มนต์ดำไสวยวิชชาต่าง ซึ่ง “หัวใจหลักของการบูชาพญาครุฑคือผู้บูชาจะต้องมีความกตัญญูต่อบิดา มารดา ครูบาอาจารย์และแผ่นดินเกิด” เพียงเท่านี้ก็สามารถบูชาพญาครุฑทั้ง 9 ได้แล้วครับ