หากจะกล่าวถึงโรงทาน หลายคนอาจนึกถึงโรงอาหาร หรือมากกว่านั้นคือโรงเจ แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักกับโรงทานอย่างจริงจัง “บทความนี้จะชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับโรงทานและอานิสงส์ของการสร้างโรงทานที่ถูกบันทึกไว้ในพระสูตรโบราณอีกด้วยครับ ตามมาดูกันเลย”
โรงทานคืออะไร?
“แต่เดิมในสมัยโบราณกาล โรงทานถูกเรียกว่า โรงนอน หรือเป็นที่รู้จักของคนในสมัยโบราณว่า โรงพักคนยากไร้ โดยในสมัยก่อน”
โรงทานถูกสร้างขึ้นสำหรับคนจนในย่านนั้น หรือคนที่เป็นม่าย และผู้สูงอายุที่ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ ซึ่งโรงทานส่วนมากจะได้รับการดูแลจากองค์กรการกุศลอีกด้วยครับ
จุดเริ่มต้นของโรงทานในพุทธศาสนา
ย้อนกลับไปประมาณ 2,500 ปี ยังมีเศรษฐีผู้หนึ่งมีชื่อว่าท่านอนาถบิณฑิก (ประวัติท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีในพระไตรปิฎก) เป็นชาวสาวัตถี แต่เดิมนั้นท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีได้นับถือนักบวชปริพาชกมาก่อน อยู่มาวันหนึ่งท่านเศรษฐีได้เดินทางไปพบสหายต่างเมืองแล้วพบว่าสหายของท่านกำลังจะเตรียมอาหารจะไปถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสมณะสงฆ์ครับ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ยินจึงสงสัยว่าพระพุทธเจ้าเป็นใคร ดังนั้นท่านจึงติดตามสหายไป และในวันนั้นเองท่านก็ได้บรรลุหลักธรรมจากพระโอษฐ์ของพระบรมศาสดา “ด้วยเหตุนี้ทำให้ท่านอนาถบิณฑิกเกิดดวงตาเห็นธรรมขึ้นมาจึงได้สร้างโรงทานถวายแด่พระบรมศาสดา และศาสนาพุทธ” ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดโรงทานแห่งแรกขึ้นมาในสมัยพุทธกาล และองค์สมเด็จพระบรมศาสดาจึงตรัสว่า ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นเอกทัตตะ ด้านการให้ทานแปลว่าท่านเศรษฐีอนาถบิณฑิก ให้ทานเป็นเลิศกว่าบุคคลอื่นใดในโลกนี้และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน
สร้างโรงทานได้บุญมากแค่ไหน? ความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมา
“เชื่อกันว่าการสร้างโรงทานจะได้บุญมหาศาลประมาณไม่ได้” (อานิสงส์ของการให้ทานในพระพุทธศาสนา) แต่จะได้ผลบุญขนาดไหนนั้น แอดจึงพาทุกคนมาดู 9 อานิสงส์ของการสร้างโรงทานกันครับ ตามมาดูกัน
9 อานิสงส์ของการสร้างโรงทาน
อานิสงส์ข้อที่ 1 – มีอาหารกินไม่อด อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์
“เชื่อกันว่าหากได้สร้างโรงทานแล้ว จะมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ชีวิตไม่อดอยาก ไม่ขัดสนนั่นเองครับ”
อานิสงส์ข้อที่ 2 – มีผู้คนช่วยเหลือในยามยาก
“เชื่อสืบต่อกันมาว่า หากผู้ใดได้สร้างโรงทานแล้ว หากตกทุกข์ได้ยาก จะมีผู้คนช่วยเหลือเกื้อกูลในวาระที่กำลังเผชิญกับความทุกข์นั่นเองครับ”
อานิสงส์ข้อที่ 3 – ดึงดูดโชคลาภและความมั่งคั่ง
“เชื่อว่าหากผู้ใดได้สร้างโรงทาน หรือร่วมบุญโรงทานแล้วจะดึงดูดโชคลาภ และความมั่งคั่งพรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ เงินทอง ให้ไหลมาเทมาสู่คนผู้นั้นได้ไม่ยาก”
อานิสงส์ข้อที่ 4 – คลี่คลายกรรมเก่า สร้างบุญใหม่
“เชื่อกันหากผู้ใดได้สร้างโรงทานหรือร่วมบุญทำโรงทานแล้ว อานิสงส์เหล่านี้จะช่วยคลี่คลายกรรมเก่า และนับเป็นการสร้างเสริมบุญใหม่ได้อีกด้วยครับ”
อานิสงส์ข้อที่ 5 – เกิดในภพภูมิที่ดี มีสติปัญญา
“เชื่อกันหากผู้ใดได้สร้างโรงทานหรือร่วมบุญทำโรงทานแล้ว เมื่อสิ้นอายุขัยจะไปเกิดจุติใหม่ในภพภูมิที่ดี เป็นผู้มีสติปัญญามาก เฉลียวฉลาด มีปฏิภานไหวพริบเป็นเลิศอีกด้วย
อานิสงส์ข้อที่ 6 – ทำให้ครอบครัวเป็นสุข มีแต่ความสงบเย็น
“เชื่อกันหากผู้ใดสร้างโรงทานแล้ว อานิสงส์เหล่านี้จะส่งผลให้ครอบครัวเป็นสุข เกิดแต่ความสงบร่มเย็น ไม่มีเรื่องร้อน การวิวาทหรือเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาสู่ครอบครัวคนผู้นั้น”
อานิสงส์ข้อที่ 7 – มีผิวพรรณผ่องใส สุขภาพดี
“เชื่อกันหากผู้ใดได้สร้างโรงทาน บุคคลผู้นั้นจะได้รับอานิสงส์จากการสร้างโรงทานให้เป็นผู้มีผิวพรรณ ผ่องใส สุขภาพดีได้อีกด้วยครับ”
อานิสงส์ข้อที่ 8 – ได้เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์
“เชื่อกันหากบุคคลใดได้สร้างโรงทาน บุคคลนั้นจะเป็นที่รักของมวลมนุษย์ และเหล่าเทพเทวดาที่มาร่วมอนุโมทนาในบุญกุศลของบุคคลนั้นนั่นเองครับ”
อานิสงส์ข้อที่ 9 – มีโอกาสเข้าถึงธรรมะและหลุดพ้นในอนาคต
“เชื่อกันหากผู้ใดได้สร้างโรงทานแล้วไซร้ อานิสงส์จะส่งผลให้บุคคลนั้นเข้าถึงทางธรรม และนิพพานในภพชาติปัจจุบันอีกด้วยครับ”
ทำไมต้องถวายข้าวพระพุทธ ประเพณีการเลี้ยงพระสงฆ์ในพุทธกาล
มาดูการถวายข้าวพระพุทธกันบ้าง ซึ่งในสมัยพุทธกาลมีการเลี้ยงคณะสงฆ์โดยมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน ซึ่งในสมัยก่อนมีการเชิญพระพุทธเจ้าและสมณะของพระพุทธองค์ไปสนทนาธรรมเป็นประจำ หรือแลกเปลี่ยนข้อธรรมอย่างเช่นพระเจ้าปเสนทิโกศลที่เชิญพระพุทธองค์มาประทับ เป็นต้นครับ
“ต่อมาเมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาทรงปรินิพพานไปแล้ว ในปัจจุบันทุกครั้งที่เชิญพระสงฆ์มาทำพิธีกรรมที่บ้านจะมีการเลี้ยงสมณะและจะต้องตั้งพระพุทธรูปเอาไว้ด้วย โดยจะมีการถวายข้าวพระพุทธทุกครั้งก่อนการฉันภัตตาหารของพระสงฆ์ และเมื่อพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว จะต้องมีการกล่าวคำลาข้าวพระพุทธอีกด้วยครับ”
ทำไมถวายเพล ถวายภัตตาหาร และเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม
“อีกหนึ่งอีกหนึ่งการถวายภัตตาหารที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ การใส่บาตรและถวายอาหารเพล ซึ่งจะนิยมในช่วงเช้าไปจนถึงประมาณ 11.00 น.นั่นเองครับ”
ซึ่งการถวายเพลยังมีอานิสงส์ทั้ง 7 ประการ ดังนี้.
- บุคคลใดได้ถวายเพลจะทำให้มีอายุยืนยาว และปราศจากโรคภัย
- บุคคลใดได้ถวายเพลจะทำให้ผิวพรรณผ่องใส เป็นที่พึงใจต่อผู้พบเห็น
- บุคคลใดได้ถวายเพลจะทำให้พรั่งพร้อมไปด้วยความสุขกาย สุขใจ เบิกบาน ร่าเริงเป็นประจำ
- บุคคลใดได้ถวายเพลจะเป็นที่เคารพยำเกรงของคนทั้งหลาย
- บุคคลใดได้ถวายเพลจะทำให้มีสติปัญญาแหลมคม และรอบรู้สรรพวิทยา
- บุคคลใดได้ถวายเพล จะทำให้เป็นที่รักของเหล่าเทวดา และมนุษย์
- บุคคลใดได้ถวายเพลจะทำให้เป็นผู้มีกำลังในการสร้างบารมีไม่สิ้นสุดจวบจนกว่าจะบรรลุธรรม หรือนิพพานนั่นเองครับ
สรุป – ทำบุญด้วยใจ สร้างบุญด้วยทาน อานิสงส์ยิ่งใหญ่เกินคาด
ไม่เพียงแต่การสร้างโรงทานจะมีอานิสงส์มหาศาลแล้ว อานิสงส์ของการปิดทอง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการทำบุญที่ช่วยหนุนดวงชะตาให้เปิด และก่อให้เกิดมหาบุญ มหากุศลได้เช่นกันครับ “แต่สิ่งสำคัญในการทำบุญทำทานนั้นมีหัวใจหลักคือการละซึ่งอัตตา หรือการละตัวละตนของเรา เพื่อให้ไม่กลับมาเกิดใหม่และตกลงในอบายภูมิอีก” การทำทานที่สุดของการให้ทานนั้นคือการเสียสละโดยไม่หวังผลตอบแทน และได้ละซึ่งการถือตัวตนอีกด้วย เช่นเดียวกับการ จาริกบุญ ณ พุทธคยา ที่สะท้อนถึงการปฏิบัติธรรมอันบริสุทธิ์ เพียงเท่านี้การทำทานจึงจะถือว่าทำด้วยใจบริสุทธิ์โดยแท้จริงครับ