ฟังแล้วได้บุญ! อานิสงส์ของการฟังแหล่ เลือกฟังกัณฑ์แบบไหนดีให้ชีวิตเป็นสุข แต่เดิมในสมัยโบราณในทุกปีจะมีการจัดเทศนาสั่งสอนอบรมพุทธศาสนิกชนด้วยการฟังธรรมจากพระภิกษุ โดยพระสงฆ์จะนั่งบนอาสนะแล้วเริ่มออกเสียงเทศนาด้วยการร้องธรรมผ่านทำนองเพลง ครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนอดสงสัยไม่ได้เลยว่า “เหตุใดการเทศนาครั้งนี้จึงเรียกว่าแหล่” และแหล่นั้นมีความเป็นมาอย่างไร บทความนี้จะชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับแหล่กันครับ
แหล่คืออะไร? เสน่ห์ของการสวดเล่านิทานธรรมะผ่านทำนองเพลง
อันที่จริงแล้ว แหล่จัดเป็นเพลงพื้นบ้านประเภทหนึ่งที่มีการใช้ท่วงทำนองเสียง และฉันทลักษณ์แบบร้อยกรอง ซึ่งในเนื้อความของแหล่นั้นจะต้องมีคำร้องที่สอดคล้องคล้องจองกัน “ทั้งแหล่ยังเน้นความไพเราะและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วยครับ โดยเนื้อหาใจความของแหล่นั้นจะเน้นเกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธศาสนารวมไปถึงการเข้าพิธีล้างกรรมด้วยน้ำมนต์ ขนบธรรมเนียม ประเพณี ตลอดไปจนถึงปรัชญาของวิถีชีวิตสังคมในช่วงเวลานั้นๆ อีกด้วยครับ”
แต่เดิมในสมัยโบราณกาล การ้องแหล่พบมากในภูมิภาคเหนือ แล้วจึงกระจายลงมาทางตอนใต้ของประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในช่วงที่มีงานบุญสำคัญประจำเดือน หรืองานอวมงคลอย่างงานศพก็ได้เช่นกันครับ
ฟังแหล่ได้บุญอย่างไร? อานิสงส์ที่คนรุ่นใหม่อาจไม่เคยรู้
ไม่เพียงแต่การแหล่จะเป็นเพลงพื้นบ้านเท่านั้นหากแต่การแหล่ยังเปรียบเสมือนการฟังธรรมอีกด้วยครับ ซึ่งอานิสงส์ของการแหล่นั้นมีด้วยกัน 5 ประการดังนี้ครับ
- คนโบราณเชื่อกันว่าเมื่อสิ้นอายุขัยจากโลกนี้แล้วจะมีโอกาสได้ไปพบพระพุทธเจ้าซึ่งมีพระนามว่าพระศรีอริยเมตไตรย์ในอนาคตกาลเบื้องหน้า
- คนโบราณเชื่อกันว่าเมื่อดับละซึ่งขันธ์แล้วจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ และได้เสวยทิพยสมบัติอันยิ่งใหญ่มโหฬารอีกด้วยครับ
- คนโบราณเชื่อกันว่าเมื่อตายจากโลกนี้แล้ว จะมีโอกาสได้พบพระพุทธเจ้า ซึ่งมีพระนามว่า ศรีอริยเมตไตย์ ในอนาคต
- คนโบราณเชื่อกันว่าการฟังแหล่นั้นจะช่วยทำให้ไม่ตกนรกเมื่อสิ้นอายุขัยจากโลกนี้ไปแล้ว
- คนโบราณเชื่อกันว่าเมื่อไหร่ได้ฟังแหล่เปรียบเสมือนได้ฟังธรรมต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธองค์ ดังนั้นจึงเกิดดวงตาเห็นธรรมขึ้นมาได้เร็วกว่าการฟังเพลงพื้นบ้านทั่วไป
แหล่กับพระธรรม – การปลูกฝังศีลธรรมผ่านเสียงร้อง
“การแหล่เป็นการฟังเทศน์ในอีกรูปแบบหนึ่งที่มุ่งเน้นเล่าเรื่องผ่านการขับร้อง” โดยเนื้อความของการแหล่นั้นจะต้องเป็นเนื้อความที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา โดยจะมีพระภิกษุสงฆ์ขับขานทำนองการแหล่ให้แก่สารสิทธิ์หรือพุทธศาสนิกชนได้รับฟังกันครับ
ฟังแหล่แล้วสงบจิต ลดความฟุ้งซ่าน เหมือนนั่งสมาธิจริงหรือ?
“การฟังแหล่ไม่คล้ายกับการนั่งสมาธิ นั่นก็เพราะว่าการนั่งสมาธิจะมุ่งเน้นการนั่งแบบอานาปานสติ โดยกำหนดรู้ลมหายใจเข้ากำหนดรู้ลมหายใจออก และยังทำให้จิตใจสงบเบิกบานส่งผลให้เกิดสติและปัญญาขึ้นมาครับ” เพราะว่าการฟังแหล่นั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจสงบเหมือนนั่งสมาธิ หากแต่การฟังแหล่เปรียบเสมือนการฟังธรรมตามฤดูกาลนั่นเองครับ
เลือกฟังกัณฑ์ไหนดี? แนะนำกัณฑ์ยอดนิยมที่ฟังง่าย ได้บุญ
สำหรับพุทธศาสนิกชนที่นับถือพระพุทธศาสนาและมีความประสงค์ที่จะทำนุบำรุงบวรพุทธศาสนาผ่านการฟังแหล่ แนะนำว่าควรฟังแหล่ ดังต่อไปนี้
แหล่กัณฑ์มัชฌิมาปฐม – ธรรมะว่าด้วยปฏิจจสมุปบาท
แหล่การมาที่มาประถม หนึ่งในแหล่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการปฏิบัติธรรม “นั่นก็เพราะการฟังแหล่ในกัณฑ์ที่ 59 นี้ เป็นบทที่ว่าด้วยเรื่องธรรมะปฏิจจสมุปบาทท อันได้แก่ การเกิดดับของสังขาร การเกิดดับของขันธ์ 5 การเกิดดับของอวิชชา เป็นต้นครับ” ซึ่งในตอนจบเราจะได้พบกับคำว่าสูญญตาหรือความว่างเปล่าอันเป็นสัจธรรมอันแท้จริงของบวรพุทธศาสนาอีกด้วยครับ
แหล่เทศน์มหาชาติ เวสสันดรชาดก – สื่อถึงการบำเพ็ญทานบารมี
ปิดท้ายด้วยการฟังแหล่เทศน์มหาชาติจัดเป็นแหล่ที่สำคัญที่สุด “เหตุก็เพราะการฟังแหล่เทศน์มหาชาติเป็นเนื้อความของการขับร้องเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดก อันเป็นหนึ่งในทศชาติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งในชาติสุดท้ายก่อนการเกิดเป็นพระพุทธองค์นั้น พระพุทธเจ้าได้เสวยชาติเป็นพระเวสสันดรที่ที่ถูกขับไล่ออกมาจากเมือง โดยมีพระนางมัทรี เป็นพระชายาร่วมทุกข์ร่วมสุข และพระเวสสันดรยังมีโอรสและธิดา กัณหาและชาลี แต่ทว่าในแหล่งเทศน์มหาชาตินี้พระเวสสันดรได้ยกทั้งโอรสและธิดา รวมไปถึงพระชายาให้กับชูชก เพื่อบำเพ็ญบารมีจนบรรลุธรรมสูงสุดได้ตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตมะนั่นเองครับ”
ดังนั้นจึงเกิดความเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้ฟังกันเทศน์มหาชาติเรื่องพระเวสสันดรชาดกครบถึง 13 กัณฑ์จะได้รับพร 8 จากพระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชเจ้าผู้ซึ่งคอยคุ้มครองมนุษย์ผู้กระทำความดีที่ชอบช่วยเหลือและทำนบำรุงพระพุทธศาสนาอีกด้วยครับ
ฟังแหล่ออนไลน์ได้ไหม? ได้บุญเหมือนกันหรือเปล่า
- ในการฟังแหล่ไม่จำเป็นจะต้องฟังฟังธรรมตามวัดหรืองานบุญทั่วไปเท่านั้น หากแต่การฟังแหล่เรายังสามารถฟังออนไลน์ได้อีกด้วยครับ นั่นก็เพราะการฟังแหล่นั้นเปรียบได้กับการฟังธรรม การฟังธรรมเทศนาตามฤดูกาลนั่นเองครับ ซึ่งหากผู้ใดได้ฟังแหล่แล้วไม่ว่าจะทางออนไลน์ หรือพกพาภิกษุสงฆ์ในงานบุญประจำปีก็ตาม “สิ่งสำคัญคือในการฟังและนั้นขอเพียงมีจิตใจเบิกบาน และปราศจากการพยาบาทเบียดเบียนก็นั้นเพียงพอแล้วครับ”
- ถ้าฟังแล้วอิน น้ำตาไหล แปลว่าใจเชื่อมต่อกับธรรม
“สำหรับใครที่ฟังแหล่แล้ว เกิดความรู้สึกปลื้มใจจนน้ำตาไหล นั่นก็เป็นเพราะว่า ตัวของเราเกิดความปิติยิ นดีในรถแห่งอมฤตแห่งธรรมนั่นเองครับ” เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณอันดีงามที่หัวใจของมนุษย์เชื่อมต่อได้แล้วกับธรรมะอันเป็นสัจธรรมของโลกใบกว้างใหญ่นี้อีกด้วยครับ