หากจะกล่าวถึงพระพรหม เชื่อว่าสายมูทั้งหลายไม่มีใครไม่รู้จักองค์ท่าน แต่ทว่ามีน้อยคนนักที่จะเข้าใจเข้าถึงแก่นแท้ของการบูชาพรหมเทพ และ “ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าควรมูพระพรหมด้านไหนดี ถึงจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ปังแบบฉุดไม่อยู่ได้บทความนี้มีมาฝากกันครับ”
พระพรหม คือเทพอะไร
พรหมเทพเป็นหนึ่งในมหาพรหมเทพที่ได้รับการบูชาไม่แตกต่างไปจากมหาเทพอีกสองพระองค์ นั้นอย่าง มหาเทพพระศิวะ และองค์มหาเทพวิษณุ “โดยพระพรหมจัดเป็นมหาเทพผู้สร้างสรรค์ทุกสรรพสิ่ง พระองค์ยังเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ และยังเป็นเทพที่บันดาลพรให้สมหวังสมปรารถนาในทุกเรื่องได้อีกด้วยครับ”
พระพรหมเป็นมหาเทพที่มีลักษณะเป็นเทพที่มีเครายาวสีขาว ๆ อุปนิสัยพระทัยดี พระทัยเย็น พระองค์ประทับอยู่บนดอกบัวอันเป็นสัญลักษณ์ของการเบิกบาน การตื่นรู้ ทั้งพระองค์มีชายาเป็นพระแม่ สุรัสสวัสดี ซึ่งเป็นเทวีแห่งปัญญา และพระแม่ยังจัดอยู่ในตรีศักติ หรือตรีเทวีด้วยครับ
บทสวดบูชาพระพรหม
ในการสวดบูชาพระพรหมสามารถใช้บทสวดได้ ดังต่อไปนี้
- บทแรกนี้ให้สวด 1 จบ เท่านั้น “โอม ปะระเมศะ นะมัสสะการัม โองการะ นิสสะวะรัม พรหมเรสะยัม ภูปัสสะวา วิษณู ไวยะทานะโมโทติลูกะปัม ทะระมา ยิกยานัม ยะไวยะลา คะมุลัม สะทานันตะระ วิมุสะตินัม นะมัสเต นะมัสเต จะอะการัง ตะโถวาจะ เอตามาตาระยัต ตะมันตะรามา กัตถะนารัมลา จะสะระวะปะติตัม สัมโภพะกะละ ทิวะทิยัม มะตัมยะ”
- บทต่อมาให้สวด เริ่มต้นที่ “โอม จะตุระมุขายะ วิทมะเห หัมษา รุทายะ ธีมะหิ ตันโน พรหมมา ประโจทะยาต” จำนวน 1 จบ
- บทสุดท้ายเป็นบทสั้นและนิยมสวดกันนั้น โดยเริ่มกล่าวดังนี้ “โอม พรหมมายะ นะมะห์” แต่ให้สวดในจำนวน 4 จบครับ
แม้ว่าในการสวดมนต์บทบูชาพรหมเทพจะมีบทสวดให้เลือกมากมาย หากแต่สาวกผู้บูชาพระพรหมควรเลือดสวดบูชา 1 บทเท่านั้น ไม่ควรสวดทั้งหมดครับ โดยหัวใจหลักของการบูชาพระพรหมนั้นให้ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ และขอพรด้วยความตั้งมั่นตั้งใจ
ความหมายของพระพรหม 4 หน้า
ส่วนใหญ่หลายคนมักจะเห็น “พระพรหมมี 4 หน้า 8 กร โดยสามารถเปรียบได้กับหลักของพรหมวิหาร 4 ได้แก่ เมตตา มุทิตา กรุณา อุเบกขา ซึ่งหลักพรหมวิหาร 4 จัดเป็นหลักการอันประเสริฐและบริสุทธิ์” อีกด้วยครับ ซึ่งพระพรหมมีพระกรถืออาวุธครบทั้ง 8 กรเลยทีเดียวครับ อาทิ เช่น พระกรทรงจักร หอยสังข์ คัมภีร์ คนโฑ คฑา บ่วง ดอกบัว และยังทรงถือลูกประคำนั่นเองครับ
ไหว้พระพรหม ขอพรด้านไหน
สำหรับในการขอพรพระพรหมเทพ 4 พักตร์จะสามารถขอพรได้ทุกเรื่อง เช่น ความรัก สุขภาพ การเงิน การงาน และโชคลาภ อีกด้วยครับ โดย “พักตร์แรก ท่านจะประทานเรื่องงาน การเรียน พักตร์ที่สองจะประทานพรเรื่องบ้าน ที่ดิน รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ และพักตร์ที่สาม พรหมเทพจะประทานเรื่อง สุขภาพ ครอบครัว และการมีคู่ครองที่ดี ส่วนพักตร์สุดท้ายจะประทานเงิน ทอง โชคลาภ และการขอมีบุตร”นั่นเองครับ
ผู้เขียนแนะนำว่าในการไหว้ขอพรพรหมเทพควรไหว้ให้ครบทุกพักตร์ โดยจะต้องเดินเวียนไปทางทิศขวารอบพระพรหม 3 รอบ ซึ่งจะต้องเป็นไปในทิศตามเข็มนาฬิกาอีกด้วยครับ
ไหว้พระพรหม ที่ไหนได้บ้าง
1. พระพรหมเอราวัณ กลางสี่แยกราชประสงค์
สำหรับสถานที่แรกที่จะไหว้พระพรหมจะเริ่มต้นจาก พระพรหมเอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยในการไหว้พระต้องไหว้พระพรหมให้ครบทุกพักตร์ เชื่อกันว่าพระพรหมเอราวัณศักดิ์สิทธืมาก ๆ หากใครอยากให้การงานสำเร็จมาขอพรที่สี่แยกราชประสงค์กันได้เลยครับ
2. พระพรหม เทวสถานโบสถ์พราหมณ์
ต่อมาเป็นพระพรหมที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ บริเวณนี้ตั้งอยู่ใกล้เสาชิงช้า ในวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ปี พ.ศ. 2327 เลยทีเดียวครับ โดยพระพรหมจะประดิษฐานอยู่ภายในเทวาลัยกลางบ่อน้ำนั่นเองครับ หากใครอยากให้หน้าที่การงานเจริญให้มาสักการะองค์ท่านทีนี่ได้ครับ
3. พระพรหมเอราวัณ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี
ปิดท้ายด้วยการสักการะพระพรหมที่วัดแขก หรือวัดพระศรีมหาอุมาเทวี โดยวัดนี้เป็ยนวัดที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างมากของชาวฮินดู และแน่นอนว่าที่นี่จะมีพระพรหมประดิษฐานอยู่ แต่เป็นพระพรหมที่สร้างจากศิลปะของทมิฬนาฑู หรือทางอินเดียใต้ หากใครได้มาวัดแขกนั้น แนะนำให้ไหว้สักการะพรหมเทพด้วยดอกมะลิ ดอกดาวเรือง และดอกบัว หรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมจากธรรมชาติก็ได้อีกเช่นกัน ทั้งยังสามารถขอพรได้ทุกเรื่องอีกด้วยครับ
บทสรุป
หัวใจหลักของการมูพระพรหมนั้นสาวกผู้บูชาจะต้องบูชาด้วยของไหว้ ดอกไม้ และกำยาน ซึ่งควรงดไหว้สักการะพระพรหมด้วยอาหารคาว อาหารที่มีเนื้อสัตว์ และ “สิ่งสำคัญคือในการขอพรพระพรหมทุกพรที่ขอพระองค์จะต้องเป็นสิ่งที่ดีต่อตนเอง และผู้อื่นจึงจะเรียกได้ว่าได้รับพรจากพรหมเทพ มหาเทพผู้สร้างอย่างแท้จริงครับ”