‘กรวดน้ำ’ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เชื่อสืบต่อกันว่าจะสามารถส่งผลบุญให้ไปถึงยังผู้ล่วงลับได้ โดยการกรวดน้ำยังแบ่งได้อีก 2 ประเภท อาทิ กรวดน้ำแห้ง กรวดน้ำเปียก บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกรวดน้ำแห้ง และ กรวดน้ำเปียก ตามมาดูกันเลย
กรวดน้ำแบบแห้ง
กรวดน้ำแบบแห้งคืออะไร
การกรวดน้ำแบบแห้งเป็นการกรวดน้ำโดยไม่ใช้น้ำเป็นสื่อกลาง ซึ่งจะใช้แค่การพนมมือไหว้อธิษฐานทั้งสิบนิ้ว จากนั้นจึงอุทิศแผ่บุญกุศลไปให้
วิธีกรวดน้ำแบบแห้ง
- หลังจากสวดมนต์เสร็จให้ตั้งจิตนึกถึงองค์พระบรมศาสดา พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
- ให้อุทิศผลบุญส่วนกุศลที่ได้กระทำไป ให้กับผู้ล่วงลับ หรือผู้ที่เราต้องการจะแผ่บุญให้
- จากนั้นให้ตั้งจิตแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย
กรวดน้ำแบบเปียก
กรวดน้ำแบบเปียกคืออะไร
สำหรับการกรวดน้ำแบบเปียกนั้นเป็นการกรวดน้ำโดยใช้น้ำเป็นสื่อกลาง กรวดน้ำแบบเปียก โดยใช้น้ำเป็นสื่อ ซึ่งจะต้องหยาดน้ำลงบนดิน ใช้การพนมมืออธิษฐานถึงคนที่ได้ล่วงลับไปแล้ว
วิธีกรวดน้ำแบบเปียก
- หลังจากสวดมนต์เสร็จให้ตั้งจิตนึกถึงองค์พระบรมศาสดา พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
- สวดมนต์บทกรวดน้ำ จากนั้นเทน้ำสะอาดลงในภาชนะรองรับ
- แล้วจึงค่อย ๆ หยาดน้ำลงสู่ดิน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
บทสวดกรวดน้ำ
อิทัง เม ญาตินัง โหนตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าเถิด ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุขด้วยเถิด
เคล็ดลับการกรวดน้ำ
ในการกรวดน้ำแบบเปียกจะมีการหยาดน้ำลงสู่ดิน แนะนำว่าให้ค่อย ๆ เทน้ำลงบนโคนต้นไม้ใหญ่ หรือโคนต้นไม้มีน้ำ หากต้องการเทน้ำลงดินสามารถใช้มือมารองเพื่อให้น้ำที่เทลงจากที่สูงค่อย ๆ ไหลผ่านมือก็ได้อีกเช่นเดียวกันค่ะ
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีการกรวดน้ำที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เรียกได้ว่าการกรวดน้ำนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณพุทธกาลที่เชื่อกันว่าหลังจากทำบุญเสร็จให้กรวดน้ำในทันที ซึ่งการกรวดน้ำเกิดขึ้นจากพระบรมศาสดาสัมพุทธเจ้าได้แนะนำให้พระเจ้าพิมพิสารกรวดน้ำอุทิศส่วนผลบุญให้กับพระประยูรญาติของพระองค์ที่ได้ล่วงลับไปแล้วอีกด้วย