ตำนานเทพพระจันทร์ เทพนวนพเคราะห์แห่งเทพเจ้า

โดย Admin-Dream

พระจันทร์จัดเป็นเทพนวนพเคราะห์องค์หนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในฝั่งทางเทพไทย ทว่าเรื่องราวของพระจันทร์ยังปรากฎไม่หลากหลายมากเท่าไหร่นัก บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักตำนานเทพพระจันทร์ มูยังไงให้ปังสุด ๆ ตามมาอ่านกันเลย

ภาพเทพพระจันทร์ในตำนานไทยที่ลึกลับและยิ่งใหญ่ เทพพระจันทร์ลอยอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ส่องแสงเรืองรอง ล้อมรอบด้วยดวงดาวและแสงจักรวาลที่สงบเงียบ ด้านล่างมีวัดหรือเจดีย์แบบไทย สะท้อนถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมของอิทธิพลแห่งจักรวาลของเทพพระจันทร์ ภาพนี้แสดงถึงความสง่างามและจิตวิญญาณของเทพพระจันทร์ในวัฒนธรรมไทย ผสมผสานความงดงามของจักรวาลกับมรดกทางวัฒนธรรมไทย สร้างความรู้สึกเคารพและความประหลาดใจ

ตำนานเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์

ภาพเทพพระจันทร์ในตำนานไทยที่สง่างาม เทพพระจันทร์ส่องแสงนวลนุ่ม ลอยอย่างสง่าในท้องฟ้ายามค่ำคืน ล้อมรอบด้วยดวงดาวและแสงลึกลับ ด้านล่างมีวัดหรือเจดีย์แบบไทยที่เพิ่มความลึกซึ้งทางวัฒนธรรม บรรยากาศโดยรวมเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และจิตวิญญาณ สื่อถึงอิทธิพลอันทรงพลังของเทพพระจันทร์ในด้านจักรวาลและวัฒนธรรมของความเชื่อไทย ภาพนี้ผสมผสานความงดงามของจักรวาลกับตำนานไทยได้อย่างลงตัว

แต่เดิมคติความเชื่อของไทยเชื่อกันว่าพระจันทร์มีอีกพระนามเรียกว่า ‘จันทรเทพ’ ซึ่งจันทรเทพเกิดมาจากพระอิศวรที่นำนางอัปสรทั้งสิบสี่องค์ไปบดเป็นผง จากนั้นพระองค์นำไปห่อสีขาวนวลสะอาดตา แล้วจึงประพรมด้วยน้ำอมฤต จากนั้นองค์พระศิวะมหาเทพก็เสกออกมาให้เป็นจันทรเทพนั่นเองครับ

“รูปลักษณ์ของจันทรเทพเจ้าจีนจะมีลักษณะเป็นบุรุษ วรกายสีขาวนวล ทรงดอกบัว และพระขรรค์เป็นอาวุธ เทพบุตรจันทรเทพมีเครื่องประดับเป็นมงกุฎทรงน้ำเต้า ประดับวรองค์ด้วยเครื่องเงิน และไข่มุกเปล่งประกายตระการตา และทรงมีอาชาไนยเป็นพาหนะ จันทรเทพบุตรมีทิศประจำเป็นทิศตะวันออก” อีกด้วยครับ

ตำนานวันไหว้พระจันทร์

ภาพเทพพระจันทร์ในตำนานไทยที่สง่างามและลึกลับ เทพพระจันทร์ส่องแสงนุ่มนวล ล้อมรอบด้วยดวงดาวและท้องฟ้ายามค่ำคืนอันกว้างใหญ่ ด้านล่างปรากฏวัดหรือเจดีย์แบบไทย สร้างความลึกซึ้งทางวัฒนธรรม เทพพระจันทร์ลอยอย่างสง่างาม สื่อถึงพลังศักดิ์สิทธิ์และอิทธิพลแห่งจักรวาล ภาพนี้สะท้อนความสำคัญทางจิตวิญญาณและตำนานของเทพพระจันทร์ ผสมผสานความงดงามของจักรวาลกับวัฒนธรรมไทย

ข้ามฟากมาทางจีนกันบ้างดีกว่ากับเทพธิดาดวงจันทร์ผู้ซึ่งมีความงามน่าเย้ายวนใจอย่างเทพธิดาฉางเอ๋อ ว่ากันว่าเทพธิดาฉางเอ๋อเป็นคนรักโฮวอี้ บุรุษนักแม่นธนูแห่งสรวงสรรค์ อยู่มาวันหนึ่ง โฮวอี้ คนรักของเทพธิดาฉางเอ๋อได้ยิงคันศรไปโดนดวงอาทิตย์ตกไปจนถึง 9 ดวงซึ่งแต่เดิมสรวงสรรค์เคยมีดวงอาทิตย์ทั้งหมด 10 ดวง

ภาพเทพพระจันทร์ในตำนานไทยที่มีความลึกลับและละเอียด เทพพระจันทร์เรืองแสงในท้องฟ้ายามค่ำคืน ล้อมรอบด้วยดวงดาวและแสงจักรวาล มีองค์ประกอบของวัดหรือเจดีย์แบบไทยอยู่เบื้องล่าง ภาพนี้แผ่พลังศักดิ์สิทธิ์และความงดงามของจักรวาล สื่อถึงความสำคัญของเทพพระจันทร์ในฐานะเทพนวนพเคราะห์ ภาพเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ความศรัทธา และพลังทางจิตวิญญาณ สะท้อนความเชื่อในอิทธิพลของเทพพระจันทร์ในวัฒนธรรมไทย

การกระทำของโฮวอี้ในครั้งนี้นับว่าฝ่าฝืนกฎสวรรค์ ดังนั้นสวรรค์จึงมีบัญชาส่งให้โฮวอี้ และคนรักอย่างเทพธิดาฉางเอ๋อไปใช้ชีวิตแบบมนุษย์โลกทั่วไป ทว่าโฮวอี้กลับถูกคนสนิททรยศหักหลังสังหารเขาจนตาย ด้านเทพธิดาฉางเอ๋อ นางได้ดื่มน้ำอมฤตเพื่อที่จะมีชีวิตอมตะอีกครั้ง จากนั้นเทพธิดาฉางเอ๋อก็เหาะกลับไปดวงจันทร์ตามเดิมด้วยความโศกเศร้าเสียใจอีกด้วยครับ

ภาพจันทรเทพ เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ในตำนานไทย แสดงให้เห็นถึงการกำเนิดของจันทรเทพโดยพระอิศวรที่บดนางอัปสรทั้งสิบสี่เป็นผง จากนั้นเสกให้กลายเป็นจันทรเทพ ซึ่งเรืองแสงนวลอย่างศักดิ์สิทธิ์ พื้นหลังเป็นจักรวาลที่มีดวงดาว เมฆหมุนวน และดวงจันทร์ส่องแสงสว่าง สร้างบรรยากาศลึกลับและน่าเคารพ สื่อถึงช่วงเวลาแห่งการกำเนิดของจันทรเทพในตำนาน

ต่อมาเกิดโรคระบาดในมหานครปักกิ่ง ทำให้เทพธิดาฉางเอ๋อ ที่อยู่บนดวงจันทร์เห็นแล้วรู้สึกเศร้าเสียใจยิ่งนัก นางจึงได้ส่งกระต่ายหยกที่อาศัยอยู่ดวงจันทร์ ซึ่งแต่เดิมเคยตำยามารักษาชาวบ้านที่เมืองปักกิ่ง ชาวบ้านในเมืองรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากจึงอยากตอบแทน แต่ทว่ากระต่ายหยกปฏิเสธ เมื่อกระต่ายหยกรักษาชาวบ้านสำเร็จจึงเหาะกลับขึ้นไปยังดวงจันทร์อีกครั้ง และนับแต่นั้นเป็นต้นมา “ชาวจีนจึงนิยมไหว้พระจันทร์ หรือเทพธิดาฉางเอ๋อไปพร้อมกันกับกระต่ายหยก และได้เกิดเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ขึ้นมา” นั่นเองครับ

พิธีกรรม

ในการบูชาไหว้พระจันทร์ หัวใจสำคัญเลยคือต้องมีของไหว้ โดยของถวายพระจันทร์จะมี ดังนี้

  • ผลไม้มงคล ซึ่งจะต้องมีทั้งชื่อและความหมายที่ดีจำนวน 4 อย่าง ได้แก่ ทับทิม ส้ม ส้มโอ และสาลี่
  • ของแห้งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเป็นอาหารเจ หรืออาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ โดยจะมีจำนวน 4 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น เห็ดหอมจีน เห็ดหูหนูจีน ฟองเต้าหู้ วุ้นเส้น
    ขนมหวานจำเป็นอย่างยิ่งต้องเป็นขนมไหว้พระจันทร์ ขนมสาคูแดง จำนวน 4
    ถ้วย ขนมโก๋ และขนมเปี๊ยะ
  • ของใช้สตรี ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอาง เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย และน้ำหอม
  • กระดาษไหว้พระจันทร์ กระดาษทอง กระดาษเงิน
  • โคมไฟ ชาวจีนเชื่อกันว่าจะมีชีวิตที่สว่างไสว
  • ต้นอ้อย จำนวน 1 คู่

ความเชื่อในการมู พระจันทร์ ขอพรอะไรดี

ภาพผู้คนกำลังสวดขอพรพระจันทร์ในพิธีบูชาพระจันทร์แบบดั้งเดิม ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างในท้องฟ้ายามค่ำคืน แผ่แสงอ่อนๆ เหนือภูมิทัศน์ที่สงบเงียบ มีของไหว้ เช่น ผลไม้ เทียน และธูปวางอยู่ด้านหน้า บรรยากาศในภาพสะท้อนถึงความศรัทธาและความเคารพ โดยดวงจันทร์สื่อถึงความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์ และความรัก ภาพนี้สื่อถึงความเชื่อทางวัฒนธรรมในการขอพรพระจันทร์ โดยเฉพาะในเรื่องความมั่งคั่งทางการเงินตามธรรมเนียมไทย

สำหรับในการขอพรพระจันทร์นั้น สามารถขอพรพระจันทร์ในเรื่อง ความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์ ความรัก “แต่ที่นิยมกระทำกันที่สุดในการขอพรพระจันทร์นั้นเห็นจะหนีไม่พ้นการขอเงินพระจันทร์” นั่นเองครับ

มูพระจันทร์ อย่างไรให้ถูกวิธี

ภาพโต๊ะบูชาพระจันทร์แบบจีนที่สมจริงและละเอียด มีของไหว้มงคล เช่น ทับทิม ส้ม ส้มโอ และสาลี่ สัญลักษณ์ของความโชคดี มีอาหารเจอย่างเห็ดหอมจีน ฟองเต้าหู้ และวุ้นเส้น รวมถึงขนมไหว้พระจันทร์ ขนมสาคูแดง ขนมโก๋ และขนมเปี๊ยะ นอกจากนี้ยังมีสิ่งของสำหรับผู้หญิง เช่น เครื่องสำอาง เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย และน้ำหอม โต๊ะบูชาถูกประดับด้วยกระดาษทอง กระดาษเงิน โคมไฟ และต้นอ้อยคู่ สื่อถึงความรุ่งเรืองและชีวิตที่สว่างไสวตามความเชื่อจีน

สำหรับการมูเตลูขอเงินพระจันทร์ จะมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  1. ให้เตรียมทำความสะอาดกระเป๋าเงิน โดยจัดเตรียมธนบัตร เลขมงคลไว้ในกระเป๋าสตางค์
  2. แนะนำให้งดใช้เงินในกระเป๋าที่ต้องการจะขอพร ในระยะเวลา 1 วัน
  3. จุดธูป 15 ดอก เทียนจำนวน 2 เล่ม และเตรียมดอกไม้ หรือพวงมาลัย
  4. ให้ตั้งจิตบริสุทธิ์ ให้มีสมาธิมากที่สุด แล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จากนั้นจึงขอพรกลางแจ้ง
  5. ถัดจากนั้นให้สวดคาถาขอเงินพระจันทร์ ซึ่งสามารถสวดได้ว่า นะโม 3 จบ โอมจันทร์โสมา เทวา นะมะฮา
  6. แล้วปิดจบด้วยคาถามหาลาภ (ให้ท่องจำนวน 3 จบ) โดยกล่าวว่า นะมามีมา มะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา มะณีวา ธะนังวา พีชังวา อัตถังวา ปัตถังวา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมีมา นะมามิหัง เป็นอันเสร็จพิธีกรรม แนะนำว่าหลังจากการขอพรให้งดใช้เงินในกระเป๋าจนกว่าจะถึงเช้าของวันถัดไป

สรุป

ภาพเทพธิดาฉางเอ๋อและกระต่ายหยกจากตำนานจีน แสดงถึงกระต่ายหยกที่เหาะลงมาจากดวงจันทร์เพื่อช่วยเหลือชาวเมืองปักกิ่ง ในขณะที่เทพธิดาฉางเอ๋อมองดูด้วยความเศร้าสร้อยและสง่างาม พื้นหลังเป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีดวงดาวและดวงจันทร์ส่องแสงสว่าง บรรยากาศในภาพสื่อถึงความมหัศจรรย์และความสำคัญทางวัฒนธรรมของเทศกาลไหว้พระจันทร์ ที่ชาวจีนบูชาเทพธิดาฉางเอ๋อและกระต่ายหยกพร้อมกัน

ดังจะเห็นได้ว่า คติความเชื่อพระจันทร์ไม่ได้มีเพียงแค่เทพทางฝั่งไทยเท่านั้น แต่ยังแพร่หลายไปยังจีน รวมไปถึงศาสนาฮินดูอีกด้วย ซึ่งพระจันทร์ในศาสนาฮินดูยังมีผู้นับถือเทพพระจันทร์อย่างแพร่หลายในฐานะเทพนพเคราะห์ นั่นเองครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า